ชายคนหนึ่งเปลี่ยนเครื่องบินเก่าๆ ให้เป็นบ้าน มาดูตอนเขาเปิดประตูโชว์ข้างในให้ดูกัน

ถ้าคุณเจอเครื่องบินในป่า คุณจะคิดยังไง? นี่มันซากเครื่องบินที่ตกอย่างลึกลับหรือเปล่านะ? หรือนี่คือสุสานเครื่องบินเก่า? ถ้าเป็นที่ฮิลส์โบโร โอเรกอน แล้วล่ะก็ มันคือที่อยู่ที่ไม่ค่อยจะสมถะเท่าไรของ Bruce Campbell วิศวกรไฟฟ้าที่เกษียณแล้วและชายผู้มีความคิดสร้างสรรค์แบบสุดๆ

Bruce ชอบแปลงเครื่องบินที่จะกลายเป็นแค่เศษโลหะให้เป็นผลงานชิ้นงานโบว์แดงสวยๆ ที่กลับมาใช้งานได้ดีกว่าตอนแรก เขาเชื่อว่าเครื่องบินสามารถเอาไปทำอะไรได้อีกเยอะนอกจากเหตุผลที่มันถูกสร้างขึ้นมา เขาใช้จินตนาการสูง เครื่องบินเก่าๆ และที่ดินผืนใหญ่ๆ เพื่อสร้างบ้านที่ไม่เหมือนใครเลยในโลกนี้ อ่านต่อเพื่อดูว่าเขาสร้างบ้านที่น่าแปลกตาแปลกใจแบบนี้ได้ยังไงและมาดูข้างในกันเลย!

1. ฝันให้ใหญ่

Bruce Campbell วิศวกรวัย 64 ที่เกษียณแล้วเป็นคนมีวิสัยทัศน์สร้างสรรค์เสมอ ตอนที่เขาอายุ 20 ต้นๆ เขาซื้อที่ขนาด 10 เอเคอร์ ราคา 23,000 ดอลลาร์ ในป่าลึกของฮิลส์โบโร โอเรกอน โดยมีภาพที่ชัดเจนในใจ

ตั้งแต่อายุน้อยๆ Campbell ชอบซ่อมแชมสิ่งของและวัสดุเก่าๆ เพื่อสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมา แผนของเขาสำหรับที่ผืนนี้คือการสร้างบ้านจากรถตู้ขนของหลายๆ คัน มันดูเป็นแผนที่ยอดเยี่ยมและมีความคิดสร้างสรรค์ แต่นั่นมันก่อนที่เขาจะได้ยินเรื่องบ้านที่มีใครคนหนึ่งสร้างมันขึ้นมา

2.เปลี่ยนใจ

ราวๆ 2 ทศวรรษต่อมา Bruce Campbell ได้ยินเรื่องราวของ Joanne Ussery ช่างทำผมจากมิสซิสซิปปีที่ซื้อเครื่องบิน Boeing 727 และแปลงมันให้เป็นบ้านของเธอ บ้านหลังก่อนหน้าของเธอถูกไฟไหม้ ดังนั้นหลังจากนั้นเธอจึงตัดสินใจสร้างบ้านจากเครื่องบินที่ใช้งานได้จริงอยู่ข้างๆ ทะเลสาบอันแสนสงบ

ตอนแรกเขาก็ตั้งใจจะทำบ้านจากรถตู้ขนของจริงๆ แต่ Campbell คิดว่าเครื่องบินลำยักษ์ฟังดูสร้างสรรค์มากกว่าเยอะและน่าสนุกกว่า โดยรวมแล้วเขาคิดว่าเครื่องบินไม่ควรต้องกลายเป็นเพียงเศษเหล็ก เรื่องที่ดินไม่ใช่ปัญหาเพราะเขามีที่ 10 เอเคอร์ แต่เขาต้องมีเงินพอที่จะซื้อและเคลื่อนย้ายยานพาหนะที่เอามาใช้ในรูปแบบใหม่ของเขาไปโอเรกอน

3. ซื้อ Boeing

เมื่อปี 1999 Campbell ตัดสินใจซื้อเครื่องบิน Boeing 727 จาก Olympic Airways ที่ประจำอยู่ที่สนามบินเอเธนส์มาในราคาถึง 100,000 ดอลลาร์ เมื่อเขาได้เครื่องบินมาแล้ว เขาก็ต้องทำการเคลื่อนย้ายเครื่องบินลำยักษ์ไปในป่าที่โอเรกอน

การย้ายเครื่องบินจากเอเธนส์ กรีซ ไปยังโอเรกอนนั้นเป็นงานที่น่ากลัวที่สุดของโปรเจ็กต์นี้ การเตรียมและลงมือย้ายและเรื่องอื่นๆ ของโปรเจ็กต์นี้นั้นทำให้เขาต้องใช้เงินอีก 120,000 ดอลลาร์ ซึ่งนั่นหมายความว่าเครื่องบินลำนี้มีราคา 220,000 ดอลลาร์ แต่ดูเหมือน Campbell จะทำให้เงินทุกสตางค์ของเขาคุ้มค่าได้ในหลายๆ ทางกว่าที่เขาคิดไว้

4. การย้ายครั้งใหญ่

Bruce Campbell อยากเริ่มทำโปรเจ็กต์บ้านใหม่หลังใหญ่ของเขาแล้วเต็มที่แต่อันดับแรกเลยเขาต้องย้ายเครื่องบินเข้าไปในป่าของโอเรกอน คนหลายคนต้องมายกส่วนปีกเครื่องบินแยกออกไปเพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายสมบัติชิ้นใหม่ของ Campbell ไปยังที่ส่วนตัวผืนนั้น

พวกเขารื้อปีกออกในแบบที่ Campbell สามารถประกอบมันคืนได้เมื่อเครื่องบินถูกนำไปจอดไว้ในบ้านหลังใหม่ของมันแล้ว Campbell เชื่อว่าไอเดียใหม่ของเขาจะเริ่มต้นด้วยการเป็น “ชิ้นงานที่กำลังอยู่ระหว่างการประดิษฐ์” แต่สุดท้ายแล้วมันกลายเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นหลังพยายามตั้งใจและคิดสร้างสรรค์เป็นปีๆ

5. บทเรียนจากประสบการณ์

ตอนแรก Bruce Campbell แค่เห็นว่าเครื่องบินเป็นงานที่ทำสนุกๆ และไม่ได้มีเป้าหมายพิเศษใดๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนเสมอสำหรับเขาคือเขาต้องการทำให้เครื่องบินกลับมาใช้งานได้ใหม่ เขาเชื่ออย่างจริงจังว่าเครื่องบินสามารถเปลี่ยนให้เป็นบ้านเจ๋งๆ ได้ แทนที่มันจะแค่ “ถูกแยกเป็นชิ้นเล็ก ชิ้นน้อยอย่างไม่มีค่า”

Campbell ใช้เวลาปรับปรุงลำตัวเครื่องหลายปีขณะที่เขาอาศัยอยู่ในรถตู้ขนของใกล้ๆ การย้ายไปในป่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาแต่เขามีเป้าหมายและเขาจะไม่ปล่อยให้มันล้มเหลว อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วรถตู้ถูกระรานด้วยหนู Campbell จึงต้องย้ายเข้าไปในเครื่องบินโดยปริยายและเขาก็ไม่มีใบอนุญาตให้สร้างอะไร นี่คือจุดที่เขาเริ่มเข้าใจพื้นที่นี้อย่างแท้จริง พื้นที่ที่คุณไม่อยากเชื่อว่าครั้งหนึ่งเป็นเครื่องบินที่ใช้การได้ในทุกๆ ด้าน

6. เมื่อวิทยาศาสตร์และศิลปะมาเจอกัน

ตอนที่เขาพูดคุยกับ Mirror เรื่องความคิดของเขา​ Campbell ประกาศว่า “การแยกชิ้นเครื่องบินที่สวยและแพรวพราวมันเป็นความสิ้นเปลืองอันน่าเศร้าและเป็นความล้มเหลวอันยิ่งใหญ่ของจินตนาการมนุษย์” เขายังบอกต่ออีกว่าบางคนอาจจะคิดว่าเครื่องบินในป่ามันแปลกและเป็นสภาพความเป็นอยู่ที่เหงา แต่สำหรับเขาแล้วมันรู้สึกธรรมขาติมากมาเสมอ เขาเชื่อว่าเครื่องบินลำนั้นมี “ความงดงามทางวิศวกรรมที่ไม่เหมือนโครงสร้างอื่นๆ ที่ผู้คนจะเข้าไปอาศัยข้างในได้”

เขาไม่เคยวาดแปลนสำหรับด้านในของ Boeing 727 แต่เมื่อเขาย้ายเข้าไปอยู่ ทุกอย่างก็ชัดเจนสำหรับเขา “ครั้งต่อไปที่คุณขึ้นเครื่องบิน หลับตาลงครู่หนึ่งและลบภาพที่นั่งกับผู้คนออกไปดู” เขาบอก Business Insider เมื่ออธิบายถึงความคิดของเขา “จากนั้นลืมตาขึ้นด้วยภาพๆ นั้นและลองพิจารณาความกว้างขวางของห้องนั่งเล่นดู มันเป็นสภาพแวดล้อมที่ดี มันดีจริงๆ” เขากล่าว

7. สวัสดีดาวโลก!

ก่อน Bruce Campbell จะพร้อมอวดโฉมบ้านเครื่องบินหลังโบว์แดงของเขาต่อโลก เขาล้างด้านนอกของลำตัวเครื่องบินด้วยสเปรย์น้ำแรงดันสูง เขาบอก Daily Mail ว่ามันฟังดูง่ายแต่การล้างด้วยแรงดันใช้เวลาประมาณ 4 วัน

ภายนอกของ Boeing 727 ต้องล้างทุกๆ 2 ปี และเขาต้องใช้บันไดเพื่อเข้าถึงเครื่องยนต์และด้านบนของเครื่องบิน การล้างบ้านที่รักของเขาอาจค่อนข้างอันตรายได้ถ้าเขาตกหรือสายยางแกว่งไปในทางที่บังคับไม่ได้ สิ่งนี้ทำให้เขากังวล แต่เมื่อคุณเห็นสิ่งที่เขาได้ทำกับเครื่องบิน คุณจะเข้าใจว่าทำไมมันถึงคุ้มค่า

8. ปราสาทเครื่องบิน

Campbell ได้บอกไว้ว่า เครื่องบินทุกลำถูกกำหนดให้กลายเป็น “ปราสาทเครื่องบิน” ที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยและเกษียณสำหรับทุกคน “ถ้าบ้านปกติคือรถครอบครัว Chevy หรือ Ford ในตำนาน เครื่องบินก็คือ Tesla หรือ Porsche Carrera ที่ใหม่สด” เขากล่าวตอนให้สัมภาษณ์กับทาง Daily Mail

แน่นอนว่าเช่นเดียวกับปราสาท Campbell วางเครื่องบินพาณิชย์ Boeing 727 ของเขาบนเสาคอนกรีต และเติมเต็มด้วยถนนให้รถวิ่งเข้ามาได้เป็นของตัวเองอยู่ด้านนอกของฮิลส์โบโร โอเรกอน ถ้าใครไปเยี่ยมแถวนั้น พวกเขาจะสังเกตเห็นได้ทันทีว่าได้มีการทำอะไรกับเครื่องบินไปมากขนาดไหนและมันไม่ได้อยู่ๆ มาลงจอดที่นั่นราวปาฏิหาริย์

9. อะไรเก็บ อะไรทิ้ง

Campbell พยายามใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ทุกอย่างที่เครื่องบินมีอยู่แล้ว เขาทิ้งอุปกรณ์และเครื่องควบคุมทั้งหลายไว้ในค็อกพิทตามเดิม อย่างไรก็ตาม เขาก็ได้เปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างด้วยการปรับปรุงและแก้ไขด้านในของเครื่องบินให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัยในทุกๆ วัน

สำหรับเขาแล้ว บ้านหลังใหม่นี่คือสิ่งที่ต้องปรับอยู่สม่ำเสมอในขณะที่เป็นบ้านที่ใช้งานได้ทุกอย่าง ตอนที่เขาสร้างห้องอาบน้ำชั่วคราว เขาแก้ไขให้ฟีเจอร์เก่าของเครื่องบินอย่างบันได ห้องน้ำสไตล์เครื่องบิน ไฟ LED และที่นั่งที่มากับเครื่องบินบางตัวกลับมาใช้ได้ แล้วบ้านเครื่องบินของ Campbell หน้าตาเป็นยังไงแล้วนะในวันนี้?

10. ยินดีต้อนรับสู่บ้านของผม

เมื่อใครก็ตามจะเข้ามาในบ้าน Boeing 727 ของ Bruce Campbel พวกเขาต้องใช้บันไดพับลงได้ที่มากับเครื่องบิน เช่นเดียวกับที่ผู้โดยสารต้องทำตอนที่เครื่องบินนี้ยังถูกใช้งานและอยู่บนลานยางมะตอยในสนามบินอันยุ่งเหยิง

เขาคิดถึงทุกๆ รายละเอียดมาแล้ว เช่นชั้นวางรองเท้าตรงหน้าเครื่องบิน ชั้นวางรองเท้านั้นเต็มไปด้วยรองเท้าใส่เดินในบ้านหลายคู่สำหรับผู้มาเยี่ยมเวลา Campbell ทักทายและพาพวกเขาเข้าบ้าน เขาอยากให้ทุกคนใส่ถุงเท้าและรองเท้าใส่เดินในบ้านภายในเครื่องบินเพื่อรักษาความสะอาด เพราะการทำความสะอาดบ้านหลังใหญ่ๆ นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย

11. กฎข้อแรกของบ้าน

เพราะพื้นกระจกจะสกปรกไวมากด้วยความที่มีป่าอยู่รอบๆ เขาจะยึดกฎใส่ถุงเท้าและรองเท้าใส่เดินในบ้านเสมอเพื่อให้เครื่องบินอยู่ในสภาพดั้งเดิมตลอด เขาอาศัยอยู่ตามลำพังแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ภูมิใจในตัวบ้านของเขา

Campbell จะใส่รองเท้าใส่เดินในบ้านและถุงเท้าเพื่อเดินในบ้าน Boeing 727 ที่ไม่เหมือนใครของเขา เขาชอบพื้น Plexiglas ที่ช่วยเสริมให้บ้านดูดี เขามักจะยืนบนกระจกและจินตนาการว่าเขาจะทำอะไรกับเครื่องบินลำนี้ได้อีก

12. ชีวิตแบบเรียบง่าย

คนส่วนใหญ่คงจะแปลงเครื่องบินเป็นบ้านสุดหรูที่สามารถจัดปาร์ตี้เอ็กซ์คลูซีฟขนาดใหญ่ได้ จะว่าไปแล้ว Boeing 727 ที่ปลดระวางแล้วลำนี้ก็มีพื้นที่มากมายและสามารถเก็บสิ่งอำนวยความสะดวกและสิ่งของที่มีประโยชน์ได้แน่นอน อย่างไรก็ตาม Bruce Campbell ใช้ชีวิตแบบค่อนข้างพอเพียงในเครื่องบินลำนั้นและไม่ได้อยากจะเอาอะไรที่ไม่จำเป็นไปไว้ในนั้นเท่าไร เขาสนใจแต่ของที่จำเป็นเท่านั้น แค่ของที่ทำให้ชีวิตเขาสบาย เขานอนบนฟูก ทำอาหารในไมโครเวฟและเครื่องปิ้งขนมปัง กินซีเรียลและอาหารกระป๋องเป็นส่วนใหญ่ และสร้างอุปกรณ์ใช้งานชั่วคราวขึ้นมามากมาย จริง ๆ แล้วมันก็มีอยู่ไม่กี่อย่างหรอกที่อดีตวิศวกรอย่างเขาจะทำไม่ได้

ที่เห็นในรูปนี้คือ Bruce กำลังยืดเส้นยืดสายอยู่บนเตียงฟูกโดยเขาถูกรายล้อมไปด้วยข้าวของของเขา นี่เป็นหนึ่งในสถานการณ์หายากที่คุณจะสามารถพบเขาในสภาพไม่ทันตั้งตัวและกำลังพักผ่อนอยู่ แต่ถ้าคุณถามเรานะ เราว่าเขาอาจจะกำลังคิดอยู่ว่าจะทำอะไรอีกดี อย่างไรก็ตาม เวลาที่เขาไม่ได้พักผ่อน เขาก็หาอะไรทำตลอดเวลา เขาจะปรับปรุงสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ เช่นห้องน้ำเป็นที่ต่อไป

13. ที่อาบน้ำ

เครื่องบินลำนี้มีห้องน้ำ 2 ห้องที่ยังใช้งานได้ที่มากับเครื่องแต่สิ่งที่เจ๋งที่สุดคือฝักบัวอาบน้ำ ซึ่ง Campbell สร้างไว้ใกล้ๆ หางเครื่องบิน เพื่อให้เครื่องบินมีน้ำประปาและไฟฟ้าเพื่อทำให้น้ำอุ่น เขาขุดร่องและจ่ายไฟมา

เขาเชื่อมฐานกับสายไฟเก่าและติดตู้เบรกเกอร์ด้านในเครื่องบิน โดยมีสายเคเบิล ท่อ PVC (ทำท่อ) และท่อน้ำสำรอง นี่ทำให้เขาได้แปรงฟันและโกนหนวดด้วยน้ำสะอาด

14. เหมาะสมกับนักบิน

ห้องนักบินยังมีอุปกรณ์ต่างๆ ที่มากับเครื่องครบหมด มันเคยเป็นห้องนักบินที่มีเบาะสามเบาะซึ่งตอนนี้ก็ล้าสมัยไปแล้วเนื่องจากไม่มีเครื่องบินลำใดที่ผลิตเบาะนักบินมาสามที่นั่งแล้ว ส่วนนี้ไม่ได้มากับเครื่องบินเพราะ Campbell มาเพิ่มเองทีหลัง แม้ว่าห้องนักบินจะถูกบริษัทกู้ภัยรื้อจนเหลือแต่โครง แต่เขาก็สามารถปรับปรุงหลาย ๆ สิ่งขึ้นมาใหม่ได้ หลังผ่านไประยะงหนึ่ง Campbell แปลงมันให้เป็นห้องอ่านหนังสือและห้องเอ็นเตอร์เทนเมนต์สำหรับเขา นี่คือส่วนของเครื่องบินที่เขาอยากจะพัฒนาและปรับปรุงเสมอเพราะมันมีอุปกรณ์สนุกๆ มากมายในนั้น เขาใช้เวลาว่างของตัวเองไปกับการซ่อมอะไรที่จำเป็นและเขาสนุกไปกับมันทุก ๆ วินาที

“มันเป็นของเล่นที่สุดยอดมาก ประตูลับ พื้นลับ ประตูตรงนั้น ประตูตรงนี้ ได้ดูหนัง Star Trek ในบรรยากาศแบบฉาก Star-Trek” เขาบอก Business Insider แล้วเขาก็ได้บอกอีกว่าการอาศัยในเครื่องบินมีอะไรให้ผจญภัยเสมอสำหรับเนิร์ดด้านเทคอย่างเขา “การมีของเล่นเล็กๆ เยอะๆ อยู่ในของเล่นชิ้นใหญ่มันเหมือนสวรรค์ ผมรักนกยักษ์ของผมแม้มันจะมีข้อบกพร่องและปัญหาต่าง ๆ ยังไงมันก็ยังคงเป็นสภาพแวดล้อมสำหรับการอยู่อาศัยที่ยอดเยี่ยม” Campbell กล่าวด้วยความรัก

15. ที่ทำงานของวิศวกร

ส่วนใหญ่ในแต่ละวัน Campbell จะอยู่บนเครื่องบินทำงานในคอมพิวเตอร์ที่ตรงที่ทำงานของเขาซึ่งเป็นที่ที่เขาวางแผนจะพัฒนาดีไซน์ของบ้านเพิ่มเติม เขาได้รับความสุขมากมายจากการวางแผนว่าจะทำอะไรต่อไป “ผมว่าคนส่วนใหญ่ลึกๆ แล้วก็เป็นเนิร์ดไม่มากก็น้อย ประเด็นคือเราควรได้สนุก” เขาบอก Daily Mail

มันดูเข้าใจได้ที่วิศวกรคนหนึ่งจะอยากอาศัยอยู่และทำงานกับโปรเจ็กต์ของเขาในเวลาเดียวกันเพราะนั่นคือวิธีเดียวที่เขาจะเข้าใจพื้นที่นั้นๆ และมันจะทำให้พื้นที่นั้นใช้ประโยชน์ได้มากที่สุด

16. ไฟวูบวาบ

เช่นเดียวกันกับที่ Campbell สร้างระบบน้ำก๊อกของเขา เขาได้นำไฟกลับมาใช้ใหม่ทั้งข้างในและข้างนอก เขารู้ว่าการอยู่คนเดียวในป่ามันไม่ง่ายเสมอไป เขาเลยเตรียมเครื่องใช้เบสิคของเขาให้พร้อม

ซึ่งนี่หมายความว่าเครื่องบินใช้งานได้สมบูรณ์ตอนกลางคืน เขาสามารถทำงาน อ่านหนังสือ และค้นคว้าภายในเครื่องบินตลอดคืนโดยไม่ต้องกังวลว่าไฟจะตัด เขาซ่อมไฟ LED ตัวเดิมๆ ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า

17. รักษาความสวยงาม

Bruce Campbell ไม่เพียงแต่จะดูแลด้านในของเครื่องบินเท่านั้นแต่เขายังดูแลป่าในบริเวณรอบข้าง Boeing 727 ของเขาด้วย เช่นเดียวกันกับที่คนอื่นๆ ดูแลสวนของตัวเอง Campbell รู้สึกแบบเดียวกันต่อวัชพืชและหญ้ารอบๆ เครื่องบิน

เขาตัดหญ้าสัปดาห์ละครั้งและถอนวัชพืชใต้เครื่องบินเพื่อให้บริเวณที่เขาอยู่ดูดีตลอดเวลา มันไม่ใช่งานง่ายแต่ก็ไม่มีอะไรเกินความสามารถของ Campbell

18. นวัตกรรมในจุดที่ดีที่สุด

เมื่อถูกถามโดย Daily Mail ว่าทำไมเขาจึงเชื่อในเรื่องของการนำเครื่องบินกลับมาใช้ใหม่และแปลงมันเป็นบ้านนัก Campbell เน้นหนักเรื่องข้อดีต่อสิ่งแวดล้อมที่จะได้รับจากการทำสิ่งนี้ เขาย้ำว่าเครื่องบินมันทนทานและแข็งแรงขนาดไหนโดยบอกว่ามันสามารถรับมือกับพายุและแผ่นดินไหวได้

Boeing 727 ไม่เพียงแต่จะรับมือกับพายุได้แต่เครื่องบินยังดูแลรักษาและทำความสะอาดง่าย “ภายในมันดูแลง่ายเพราะมันเป็นเหมือนกระป๋องที่ปิดแน่น มันอยู่ได้เป็นศตวรรษๆ” เขากล่าว Campbell ยังเชื่ออีกด้วยว่าการแปลงเครื่องบินยังสามารถดึงดูดความสนใจจากทั่วโลกได้เมื่อคนเข้าใจข้อดีต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว

19. ครัวที่เสบียงเต็ม

คนบางคนจะไม่อยากอยู่ในเครื่องบินเพราะมันไม่มีเครื่องใช้หรืออาหารอะไรมากมาย แต่ Bruce Campbell พิสูจน์ให้เห็นว่าเรื่องจริงไม่ใช่แบบนั้นเลย เขาอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมาก เพราะฉะนั้นการไปซื้ออาหารไม่ใช่ปัญหา

อย่างที่คุณเห็น Campbell มีครัวที่เต็มไปด้วยเสบียง เขามีทั้งเครื่องเขียง อาหารต่างๆ และของสดที่เขาจำเป็นต้องกิน เขาอาจจะไม่สามารถทำอาหารมื้อหรูได้แต่เขาอยากที่จะเลี้ยงจิตวิญญาณที่หลงใหลในเทคของเขามากกว่าท้อง ครัวมีน้ำก๊อก ไมโครเวฟ และเครื่องปิ้งขนมปัง ดังนั้นการทำอาหารมื้อเบสิคนั้นง่ายมาก อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้กินอาหารเครื่องบินนะ ว่ามั้ย?!

20. ไปบินวนเล่น?

Campbell อาจไม่สามารถเอา Boeing 727 ของเขาไปบินวนเล่นได้แต่บ้านของเขาก็ยังให้ความรู้สึกนั้นอยู่ด้วยความที่มันยังมีที่นั่งอยู่แถวหนึ่ง เขาเก็บมันไว้ในรูปแบบเดิม ดังนั้นมันจึงยังให้ความรู้สึกตื่นเต้นเหมือนได้อยู่ในอากาศ

ที่นั่งส่วนใหญ่ถูกรื้อออกไปหมดแล้วเพื่อให้มีพื้นที่ใช้อยู่อาศัยและเคลื่อนตัวได้ แต่เขาต้องการเก็บส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนเดิมของเครื่องบินเอาไว้เพื่อเตือนตัวเองว่าทำไมเขาจึงรักบ้านใหม่ที่ไม่เหมือนใครของเขามาก นอกจากนั้น บรรดาแขกยังสามารถผ่อนคลายในที่นั่งพวกนั้นนานจนกว่าจะพอใจอีกด้วย

21.เล่นเป็นนักบิน

Campbell ชอบนั่งเล่นในห้องคนขับ มันเป็นที่ๆ เขาจะปิ๊งไอเดียวิศวกรรมและมันมีซอกให้เขาได้คลายเครียด อ่านหนังสือ และพักผ่อน มันเป็นห้องเกมเล็กๆ สำหรับเขา

การนั่งในห้องคนขับให้โอกาส Campbell ได้จินตนาการว่านักบินรู้สึกอย่างไรเมื่อมีอุปกรณ์และแสงไฟนั่นนี่อยู่ตรงหน้าเต็มไปหมดขณะกำลังขับเครื่องบินอยู่ พลังของเทคโนโลยีและความรุ่งโรจน์ของมันมีชีวิตขึ้นมาได้ในห้องนี้

22. เรื่องซักผ้าก็สำคัญ

คนอาจจะคิดว่าเรื่องความสะอาดคงไม่ค่อยดีเท่าไรหรอกเวลาที่คนเราอาศัยอยู่ในเครื่องบิน แต่ไม่ต้องสงสัยเลย Bruce Campbell จัดการได้หมด เขาแปรงฟันด้วยน้ำประปาสะอาดและยังมีเครื่องซักผ้าฝาบนเป็นของตัวเองไว้ซักเสื้อผ้าให้สะอาดและหอมสดชื่น ห้องน้ำเขาก็มีสองห้องถึงแม้อีกห้องจะใช้งานไม่ได้ เขาอาบน้ำในตู้ที่แปลงมาเอา แม้เขาจะอยากทำอ่างอาบน้ำแต่ก็ยังทำไม่ได้เพราะปัญหาอื่น ๆ ที่สำคัญกว่าต้องได้รับการแก้ไขก่อน

Campbell ได้พิสูจน์ให้เราเห็นว่าเพียงมีจินตนาการและทักษะเล็กน้อยเท่านั้น อะไรก็กลายเป็นบ้านเคลื่อนที่หรือบ้านแบบชั่วคราวได้ จุดประสงค์ของเขาคือการแสดงให้ทุกคนเห็นว่าคุณไม่ต้องมีบ้านหรือแฟลตเพื่อใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ด้วยความอดทนและความพยายามเขาได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จในการกระทำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้เขามีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากความสำเร็จของเขา คุณก็คงจะเห็นแล้วว่ามันไม่มีเหตุผลที่คุณจะไม่ยอมซักผ้าถ้า Campbell ทำสิ่งนี้ในเครื่องบินที่ดัดแปลงมาได้

23. ผู้ชายธรรมดาๆ

แค่เพราะ Campbell อาศัยอยู่ในเครื่องบินนั้นไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ดูแลตัวเองหรือรูปลักษณ์ของตัวเอง จริงๆ แล้วดีไซน์ที่พิถีพิถันของภายในนั้นสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นระเบียบและสะอาดของเขาในแต่ละวัน

เขาไม่ได้กำลังถูกปล่อยทิ้งอยู่บนเรือเพียงลำพังหรือตัดขาดจากอารยธรรม ซึ่งนั่นหมายถึง Campbell โกนหนวด อาบน้ำ และทำความสะอาดตัวเองทุกวันเหมือนกันกับทุกคน เมื่ออยู่ในบ้านเครื่องบินของเขา เขามีทุกอย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งจะต้องการ

24. กลับไปยังเบสิค

Campbell บอกว่ามันมีข้อดีเป็นอย่างมากสำหรับการอาศัยในเครื่องบินที่ทำมาจากโลหะที่แข็งแกร่ง แทนที่จะเป็นบ้านที่ทำมาจากวัสดุที่ใช้กันทั่วไปอย่างไม้ เขากล่าวกับ Business Insider ว่า “ไม้คือวัสดุก่อสร้างที่แย่ในความคิดของผม มันย่อยสลาย – มันเป็นอาหารปลวกและอาหารจุลินทรีย์ หรือไม่มันก็เป็นเชื้อเพลิง ขึ้นอยู่กับว่าอะไรจะเกิดขึ้นก่อน”

เขาเชื่อว่าบ้านทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบทั่วไปนั้นมีข้อเสียเปรียบเพราะบ้านพวกนั้นจะเลือกการยศาสตร์มากกว่าความแข็งแรง “สำหรับผมการทำลายโครงสร้างที่ละเอียดมากที่มีอยู่และไปสร้างบ้านจากวัสดุที่ดีกว่ากระดาษลังอัดและสร้างด้วยดีไซน์กับวิธีที่โบราณและไม่ดีเท่านั้นไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจได้เลย” เขากล่าว

25. เป็นคนมีเหตุมีผล

ผู้คนมากมายถาม Campbell ว่าเครื่องบินมันมาตกในป่าโอเรกอนหรือเปล่าและเขาเพียงแค่กู้ซากเครื่องบินมาใช่หรือไม่ เขาไม่สนใจคำถามพวกนั้นเลยเพราะเขาบอกว่ามันเป็นคำถามที่ไร้ตรรกะสุดๆ และไม่มีเหตุผลเลย

เป้าหมายของเขาคือสอนให้โลกรู้ว่ามันต้องใช้ความพยาขนาดไหนสำหรับโปรเจ็กต์ๆ หนึ่ง มันฟังดูแปลกสำหรับเขาที่ผู้คนไม่เข้าใจความซับซ้อนที่อยู่เบื้องหลังบ้านของเขา แต่เขาก็เข้าใจว่าไมใช่ทุกคนที่จะรู้ว่าอะไรเป็นไปได้บ้าง

26. เจ้าของที่ภูมิใจ

Campbell ที่กำลังโพสท่าใน Boeing 727 ของเขานั้นภูมิใจกับบ้านของเขามาก บ้านคือที่พักของใจและสำหรับเขามันคือด้านในของเครื่องบินลำนี้ที่เขาจะได้เล่นของเล่นและอุปกรณ์ต่างๆ และรู้สึกอยากสร้างสรรค์อะไรขึ้นมาตลอดเวลา

นี่มันแค่สิ่งเดียวในบรรดาของที่ Campbell สร้างสรรค์ขึ้นมา เขามีแผนที่ใหญ่กว่าและสร้างสรรค์กว่านี้สำหรับอนาคต อ่านต่อเพื่อดูกันเลยว่าเขาจะทำอะไรต่อไปและเขาอยากทำมันที่ไหน

27. อยู่ข้างนอก

เชื่อหรือไม่ Bruce Campbell อาศัยอยู่ใน Boeing 727 ของเขา 6 เดือนต่อปีเท่านั้น เขาชอบเปลี่ยนวิวทิวทัศน์ เพราะฉะนั้นอีกครึ่งหนึ่งของปีเขาจะไปอยู่ญี่ปุ่น ซึ่งค่อนข้างแตกต่างกับการอยู่อาศัยในโอเรกอน

เวลาเขาอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น Campbell ทำหลายโปรเจ็กต์เพื่อให้ตัวเองมีอะไรทำ มีการผจญภัยหนึ่งที่เขาสนใจมากเป็นพิเศษและคุณจะไม่เชื่อเลยว่ามันคืออะไร… หรือบางทีคุณอาจจะเดาออก

28. อัพเกรด

ใช่แล้ว! Campbell วางแผนที่จะทำโปรเจ็กต์เดิมอีกครั้งแต่คราวนี้ทำในญี่ปุ่นกับเครื่องบินที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ใน Boeing 747 นั่นเอง เขาวางแผนที่จะซื้อเครื่องบิน 747 ที่ปลดระวางแล้วและแปลงมันเป็นบ้านที่ไม่ซ้ำใครอีกหลังสำหรับเวลาที่เขามาอยู่ญี่ปุ่น

ด้วยเห็นว่าเขาได้รักษาสิ่งแวดล้อมไปแล้วในหนึ่งประเทศ มันดูมีเหตุผลที่เขาจะทำแบบเดียวกันกับอีกที่ที่เขาอยู่อาศัย เมื่อเขาได้นำเครื่องบินกลับมาใช้ใหม่ 1 ลำแล้วในตอนนี้ การจะย้ายเข้าไปอยู่ในอีกลำดูเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับเขา

29. เปลี่ยนความคิด

Campbell เชื่อว่าวัตถุประสงค์ของชีวิตเขาคือการเปลี่ยนแปลงโลกเพื่อมวลมนุษยชาติและสิ่งแวดล้อม เขาได้รับแรงกระตุ้นจากความปรารถนาที่จะสร้างนวัตกรรม ถึงยังไงเขาก็ทำงานเป็นวิศวกรไฟฟ้ามาเกือบทั้งชีวิตของเขา

มันมีบางอย่างเกี่ยวกับการรีไซเคิลเครื่องบินที่ทำให้เขาตื่นเต้น วงการที่เขาต้องการเรียกมันว่าของตัวเอง “เป้าหมายของผมคือการเปลี่ยนพฤติกรรมมนุษย์ในวงการเล็กๆ นี้” Campbell กล่าวขณะยืนอยู่กับบ้านเครื่องบินของเขา

30. ทำไมต้องโอเรกอน?

Campbell เลือกที่จะประกอบเครื่องบิน Boeing 727 ของเขาขึ้นมาใหม่ในป่าฮิลส์โบโร โอเรกอนเพราะเหตุผล 2 ข้อนี้ เขาได้งานแถวนั้นหลังเรียนจบในยุค ’70s และเขาชอบความเขียวชอุ่มของแถวนั้น “ผมชอบย่านนั้นและมันเขียวชอุ่มมาก และโอเรกอนก็ดูเป็นอิสระดีซึ่งเป็นอะไรที่ผมชอบ มันออกแนวต่างจังหวัด คือดีมาก มันยิ่งกว่าพอสำหรับเครื่องบิน” เขาเขียนลงในเว็บไซต์

วิศวกรหนุ่มเลื่อนการซื้อบ้านจนเลยเถิดมาถึงช่วงชีวิตตอนนี้ เขาบอก Daily Mail ว่าเขาไม่เคยอยากเป็นหนี้บ้านและรู้สึกว่ามันผูกมัดเขาทางการเงิน เมื่อเขามีเงินสดเพียงพอที่จะซื้อบ้านแล้ว Campbell มีความคิดที่ต่างไปสิ้นเชิงอยู่ในใจ “ผมเลิกคิดแบบแคบๆ และเริ่มคิดแบบวิศวกรที่มีอิสระดั่งนก” เขากล่าว

31. บ้านที่เปิดตลอด

Bruce Campbell ยินดีให้คนนอกที่สงสัยและนักท่องเที่ยวแวะมาทัวร์บ้านของเขา คุณสามารถนัดเวลากับเขาได้ในเว็บไซต์ของเขาเลยด้วยซ้ำถ้าคุณอยู่แถวนั้นแล้วคุณอยากรู้ว่าการอยู่อาศัยในเครื่องบินมันเป็นยังไง

เมื่อถูกถามว่าเขารู้สึกยังไงกับคนพวกนี้ Campbell บอก Daily Mail ว่า “มันก็มีประจำ มันมีแทบจะทุกวัน แล้วตอนนี้ผมก็สนับสนุนให้มากันนะ” เขาดีใจที่ทุกคนได้เห็นบ้านสุดสร้างสรรค์ของเขาเพราะเขาต้องการจะโชว์ให้คนเห็นถึงสิ่งที่เขาเชื่อว่าเป็น “ของเล่นอันยิ่งใหญ่” และ “หนึ่งในโครงสร้างที่ละเอียดที่สุดที่มนุษย์เคยสร้างมา”

32. อย่าสนใจผมเลย

ด้วยความที่มีคนเข้ามาทัวร์ Boeing 727 ของ Campbell เป็นประจำ แน่นอนมันต้องมีช่วงเวลาที่เก้ๆ กังๆ กันบ้าง ครั้งหนึ่งขณะที่เขากำลังอาบน้ำอยู่ก็มีหลายคนเข้ามาเยี่ยมชมโดยไม่ได้นัดล่วงหน้า

Campbell บอกว่าสามในสี่ของผู้มาเยี่ยมชมจะนัดเวลากับเขาล่วงหน้าทางเว็บไซต์ แต่อีกหนึ่งส่วนจะมาแบบไม่รู้เวลา มาเมื่อไรก็บอกไม่ได้ “ผมอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างโปร่งใส ผมใช้ชีวิตปกติขณะที่คนอื่นก็เดินทัวร์เครื่องบินของผมไป และบางทีผมก็กำลังทำเรื่องส่วนตัวมากๆ อยู่” เขาบอก Daily Mail แต่อีกมุมหนึ่งเขาก็คิดว่ามันเหมือนเป็นรางวัลเพราะเขาได้เรียนรู้มากมายและพบเจอผู้คนที่น่าสนใจ

33. คอนเสิร์ตบนปีก

Campbell ไม่เพียงแต่จะเปิดบ้านของเขาให้แขกขี้สงสัย แต่เขายังจัดอีเว้นต์หลายอีเว้นต์ในระหว่างปี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนจนถึง 3 กรกฎาคม 2018 เขาได้ต้อนรับ Yuko Pomily นักร้องจากโตเกียวและศิลปินคนอื่นๆ ที่มาแสดงโชว์ที่ไม่เหมือนใคร มันจัดขึ้นตรงบริเวณที่หญ้าเยอะๆ ตรงหน้าปีกด้านขวาของเครื่องบิน

เขาโฆษณาโชว์นี้บนเว็บไซต์ของเขาว่า “คอนเสิร์ตทางเลือกใหม่: สุดยอดดนตรีแสดงจากปีกของบ้านเครื่องบินที่มีชีวิตชีวา” พร้อมคำแนะนำและไกด์ไลน์ต่างๆ เขาแนะนำให้แขกมาในเสื้อผ้าที่เหมาะกับต่างจังหวัดพร้อมรองเท้าเทนนิสหรือรองเท้าวิ่ง Campbell มีรองเท้าใส่เดินในบ้านให้เลยด้วยซ้ำสำหรับใครที่ต้องการจะขึ้นเครื่องบิน

34. ปาร์ตี้บน 727

สำหรับใครที่พลาดการแสดงดนตรี Bruce Campbell จะจัดปาร์ตี้ DJ แดนซ์ชุดใหญ่กับเพื่อนๆ ของเขาที่เป็นเจ้าของบริษัทโปรโมตปาร์ตี้ในพอร์ทแลนด์ที่ชื่อ Murderboat Productions ตั้งแต่วันที่ 7-9 กันยายน 2018

ปาร์ตี้นี้ได้ชื่อว่า Turbulence: A Dance Party ที่ 727 ในป่า และจะจัดขึ้นที่ปีกโดยแขกจะได้ปาร์ตี้บนพื้นและได้ทัวร์เครื่องบินด้วย ตอนนี้กว่า 14,000 คนได้แสดงความสนใจในเฟซบุคต่อปาร์ตี้ที่น่าจะสนุกสุดเหวี่ยงที่จะเต็มไปด้วยศิลปะ เบียร์ และอาหาร ที่จะได้รับอนุญาตจาก Oregon Liquor Control Commission

35. ชีวิตสังคมของ Campbell

Bruce Campbell พอใจกับไลฟ์สไตล์แบบเรียบง่ายในที่พักชายโสดสุดสร้างสรรค์ของเขาแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ ― ไม่ยอมแพ้แม้กระทั่งการจะค้นหาความรัก “ผมจะไม่แต่งงานและจะไม่มีลูก ผมอายุ 68 เพราะฉะนั้นมันสายไปแล้ว แต่ผมเองไม่เคยต้องการจะแต่งงานหรือมีลูก ผมชอบโรแมนซ์และความรักและผมมีความสุขกับมันมากเท่าที่อารยธรรมของเราจะให้ผมมีได้” เขาบอกกับ Daily Mail

เขารักบ้านสมัยใหม่ของเขามาก ซึ่งก็อธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงคิดว่าคอนเซ็ปต์ของความรักและการแต่งงานแบบโบราณมันเป็นข้อจำกัดเหมือนหนี้บ้าน อย่างไรก็ตาม เขาสนิทกับเพื่อนบ้านกลุ่มหนึ่งมากที่คอยสนับสนุนเรื่องที่เขาทำและเชื่อในวิสัยทัศน์ของเขาจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น ชีวิตเรียบง่ายของเขาก็ไม่ได้ขัดขวางความต้องการใหม่ของเขาที่ใครๆ ก็รู้จนทำให้เราต้องไปดูโปรเจ็กต์ต่อไปที่เขากำลังทำอยู่

36. ปราสาทเครื่องบิน เวอร์ชัน 2.0

Campbell แบ่งเวลาของเขาออกเป็นการอาศัยอยู่ใน Boeing 727 ของเขาในป่าที่โอเรกอนและการอาศัยในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ๆ เขาหวังว่าจะได้ซื้อที่ดินเพื่อสร้างบ้านจากเครื่องบินหลังที่สองของเขาด้วยเครื่องบินที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกอย่าง Boeing 747-400

เขาสนุกไม่หยุดกับการได้นำเครื่องบินกลับมาทำให้ใช้ใหม่ได้และเชื่อว่าทุกคนจะรู้สึกแบบเดียวกันเมื่อพวกเขาได้มาเยี่ยมเครื่องบินในโอกาสงานที่มีสังคมต่างๆ และการทัวร์แบบเปิด บนเว็บไซต์ของเขา Campbell เขียนไว้ว่าเป้าหมายของเขาคือ “การจุดประกายการเกิดใหม่ของความคิดที่จะใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอันโดดเด่นของเขาอย่างสูงสุด” ความปรารถนาของเขาคือการที่คนอื่นเริ่มสร้างบ้านจากเครื่องบินเหมือนกันกับเขา

37. การผ่าเหล่าความปรารถนาดี

วิศวกรมากความสามารถรายนี้วางแผนจะเริ่มทำบ้านเครื่องบินหลังที่สองของเขาช่วงต้นปี 2018 ที่ริมฝั่งของเกาะคิวชู เขาต้องการโลเคชันนี้เพราะเขาอยากให้บ้านของเขาได้เป็นที่พักอาศัยไม่เพียงสำหรับเขาแต่ยังสำหรับชุมชนท้องถิ่นด้วย

ความคิดของเขาคือการเปลี่ยนเครื่องบินมาเป็นเรือช่วยชีวิตจากภัยสึนามิสำหรับสถานที่ที่โดนสึนามิเป็นประจำแบบคิวชู Campbell อยากให้ผู้คนรู้ว่าเครื่องบินนั้นอยู่ได้เป็นศตวรรษๆ และทนต่อสภาพแวดล้อมอันย่ำแย่ ซึ่งต้องขอบคุณเทคโนโลยี Sealed Pressure ระดับสูงสำหรับเครื่องบิน

38. ทุกคนอยู่บนเครื่อง!

เครื่องบินที่ Bruce Campbell ใช้สร้างบ้านของเขาในโอเรกอนคือรุ่น Boeing 727-400 ซึ่งผลิตโดย Boeing ตั้งแต่ปี 1960 จนถึงปี 1984 รุ่นนี้สร้างขึ้นมาเพื่อไฟลต์ระยะสั้นและกลางๆ เพราะมันสามารถใช้รันเวย์ที่สั้นกว่าในสนามบินเล็กๆ ได้

เครื่องบินรุ่นนี้เป็นเครื่องบินรุ่นเดียวที่ Boeing Commercial Airplanes สร้างด้วยเครื่องยนต์ 3 ตัวและสามารถจุผู้โดยสารได้ 149 ถึง 189 คน Delta Airlines คือสายการบินอเมริกันใหญ่สายการบินสุดท้ายที่ใช้รุ่นนี้และปลดระวาง 727 ลำสุดท้ายในเดือนเมษายน ปี 2003 ขณะที่ Northwest Airlines ปลดระวาง 727 ลำสุดท้ายในเดือนมิถุนายน ปี 2003 วันนี้มีเพียง Iran Aseman Airlnes ที่ยังใช้งาน 727-200 บริการลูกค้าอยู่ 3 ลำ

39. อดีตที่มืดมนกว่า

ก่อน Campbell จะซื้อ Boeing 727 และเปลี่ยนมันเป็นบ้านเครื่องบินชิ้นโบว์แดง เครื่องบินลำนี้ใช้เพื่อขนส่งผู้คนไปยังจุดมุ่งหมายต่างๆ เอิ่ม แล้วถ้าเราจะบอกว่ามันได้ขนศพและใครบางคนที่มีชื่อเสียงมากด้วยล่ะ?!

ใช่! เจ้านกเหล็กที่ Campbell ชอบเรียกว่าบ้านในตอนนี้เคยขนร่าง Aristotle Onassis นักธุรกิจใหญ่โตชาวกรีกหลังเขาเสียชีวิตในฝรั่งเศสด้วยภาวะหายใจล้มเหลวเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ปี 1975 Jackie Kennedy Onassis อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐอเมริกาและเพื่อนเก่าแก่และภรรยาของ Aristotle ในตอนนั้นนั่งไปกับศพเขาบนเครื่องบิน

40. หนึ่งในไม่กี่คน

ปรากฏว่า Campbell คือหนึ่งในไม่กี่คนทั่วโลก ตั้งแต่เท็กซัส ไปจนคอสตาริกา และเนเธอร์แลนด์ ที่ได้แปลงเครื่องบินที่ถูกปลดระวางแล้วให้เป็นที่อยู่อาศัยที่ใช้งานได้ Martin Todd โฆษกของ Aircraft Fleet Recycling Association กล่าวว่าทางกลุ่ม “ดีใจที่ได้เห็นลำตัวเครื่องบินถูกนำมาแปลงด้วยความคิดสร้างสรรค์ในหลายๆ ทาง เราอยากให้มันถูกนำมาปรับปรุงและใช้ใหม่ในแบบที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม” Todd กล่าว

AFRA คือองค์กรที่มุ่งเน้นที่จะสนับสนุนการใช้งานแบบยั่งยืนสำหรับเครื่องยนต์และเครื่องบิน โฆษกอีกรายหนึ่งคาดการณ์ว่าเครื่องบินอีก 1,200 – 1,800 ลำ รอบโลกจะถูกรื้อใน 3 ปีต่อจากนี้ ขณะที่ใน 20 ปีข้างหน้า จะมีเครื่องบิน 500 – 600 ลำ ถูกปลดระวางทุกๆ ปี เครื่องบินทั้งหมดนั้นสามารถนำมาเป็นบ้านได้หมดถ้าผู้คนเรียนรู้จากตัวอย่างของ Bruce Campbell มากขึ้น!

ถ้าคุณคิดว่าบทความนี้น่าสนใจ โปรดแชร์ให้เพื่อนคุณอ่านด้วย!