รถยนต์รุ่นที่อันตรายที่สุดที่เคยมีมา

รถยนต์รุ่นที่อันตรายที่สุดที่เคยมีมา

การขับรถเป็นเรื่องอันตรายอยู่แล้วแต่รถบางรุ่นก็เพิ่มความอันตรายยิ่งขึ้นไปอีกไม่ว่าจะด้วยดีไซน์ที่ไม่ปลอดภัยหรือการผลิตที่ไม่มีคุณภาพ ชีวิตเรามีทั้งสิ่งที่เป็นอันตราย ทั้งสิ่งของมีคม โรคภัยไข้เจ็บ คนเหล็ก แรงโน้มถ่วง และตัวแบดเจอร์ คุณต้องเลือกเอาเอง

การทำให้คุณบาดเจ็บไม่ได้ทำให้สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นเดือดร้อนเลย แต่โดยปกติแล้วผู้ผลิตรถยนต์ต้องการให้คุณปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้้เพราะการที่ลูกค้ากลับมาซื้อนั้นหมายถึงธุรกิจพวกเขาไปได้ดี แต่บางทีมันก็ไม่ง่ายแบบนั้น

มันอาจจะมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์หรือปัญหาจากการที่รถถูกนำมาปล่อยสู่ตลาดเร็วเกินไป บางครั้งมันก็เป็นไอเดียดี ๆ ที่ถูกนำมาเสนอให้ผู้บริโภคก่อนเวลาอันควร และบางครั้งมันก็เป็นไอเดียที่ไม่ดีเลย ส่วนกรณีอื่นก็คือปัญหาเกิดจากการผลิตที่ห่วยและการใช้วัสดุที่ต่ำกว่ามาตรฐาน

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม รถยนต์หลาย ๆ รุ่นนี่สามารถเป็นโฆษณาให้กับธุรกิจโรงศพได้เลย ในลิสต์นี้เราจะพาไปดูรถยนต์ 15 รุ่นที่เราบอกได้แค่ว่าอย่าไปขับเลย มันไม่มีการการันตีว่าจะมีอะไรผิดปกติไหมถ้าคุณไปขับหนึ่งในรถยนต์พวกนี้ แต่ทั้ง 15 รุ่นมีประวัติและความเป็นไปได้ว่าพวกมันอันตรายกว่ารถทั่ว ๆ ไป

Pontiac Fiero

รถรุ่นนี้อยู่ในตลาดเพียงสี่ปีในยุค 1980s รถสองที่นั่งนี้ได้ตอบสนองความต้องการของผู้ซื้อรถยนต์จำนวนมากที่กำลังมองหารถยนต์ที่ขนาดเล็กลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อันที่จริงแล้ว รถรุ่นนี้ผ่านการทดสอบการชนมาหมดด้วยคะแนนอันสูงลิ่ว

คุณต้องสงสัยบ้างล่ะว่า Pontiac คิดหนักเรื่องชื่อของรถรุ่นนี้ขนาดไหนเมื่อใคร ๆ ก็เริ่มรู้จักมันไหนฐานะรถที่อยู่ ๆ ก็ระเบิดเป็นกองเพลิงขึ้นมา รถรุ่นนี้ระเบิดเป็นกองเพลิงจริง ๆ เพราะฟีเจอร์น้ำยาหล่อเย็นของมัน แม้มันจะบอกให้ผู้ใช้เติมน้ำมัน 3 ควอร์ตแต่จริง ๆ มันต้องใช้มากกว่านั้น นี่ทำให้เกิดปัญหาน้ำมันน้อยเกินไปและส่งผลให้น้ำมันรั่วในที่สุด และมันคือสาเหตุที่ทำให้ไฟใหม้!

ปัญหานี้เกิดจากความผิดปกติของก้านสูบที่ส่งผลให้ละอองน้ำมันกระเซ็นเข้าไปในเครื่องยนต์ และสเปรย์น้ำมันไปทั่วไอเสีย Pontiac เรียก Fiero ที่ผลิตในปี 1990 คืนทุกคันแต่นั่นคือหลังจากถูกบีบด้วยชือรุ่นที่น่าขันที่สุดในประวัติศาสตร์ยานยนต์

Audi 5000

เชื่อหรือไม่ว่า Audi บริษัทรถยนต์ที่เป็นที่รู้จักในเรื่องความสามารถทางวิศวกรรมเคยประสบปัญหา “การเร่งโดยไม่ตั้งใจ” รถยนต์รุ่นก่อน Audi A6 มีปัญหาเกี่ยวกับระบบ idle stabilization system ซึ่งทำให้มันพุ่งไปข้างหน้า – ขณะกำลังเบรก แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้รถรุ่นนี้มาอยู่ในลิสต์ของเรา ต่างกับ Toyota ในหลายปีถัดมา Audi ไม่เคยเรียกรถรุ่นนี้คืนมาเพื่อแก้ปัญหาและการใช้งานเป็นสิบ ๆ ปีก็ไม่ได้ทำให้มันปลอดภัยขึ้น แต่มันก็ยังคงเป็นรถ Audis ซึ่งหมายความว่ามันคงทนมากและอาจจะมีไม่กี่คันบนถนนหรือประกาศขายตอนนี้ ระวังให้ดีนะเพื่อน

Audi มีชื่อเสียงด้านคุณภาพแต่ในยุค 80s พวกเขาอาจจะไม่ควรได้รับชื่อเสียงด้านนี้เหมือนในปัจจุบัน ที่จริงแล้ว 5000 มีเครื่องยนต์ที่ีปัญหาคือจู่ ๆ เครื่องยนต์จะเร่งขึ้นเองและผู้ขับขี่จะตื่นตระหนกขณะอยู่บนท้องถนน สิ่งที่พวกเขาทำมาเพื่อแก้ปัญหามันมากเกินไปและทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา มันแย่พอที่จะทำให้ Audi 5000 มาอยู่ในลิสต์รถที่แย่ที่สุดได้

Yugo GV

เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 1984 นักลงทุนอย่าง Malcolm Bricklin ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก การลงทุนของเขาในการนำเข้า Pininfarina Spiders และ Bertone X1/9s ล้มเหลวและเขาเกือบจะล้มละลาย เขามีเวลา 120 วันเพื่อหารถที่จะได้กำไรดีกว่านี้มาขาย Bricklin เดินทางไปทั่วโลกโดยเขาไปอังกฤษเป็นที่แรกซึ่งเขาพยายามนำเข้า Jaguar และจากนั้นเขาก็ไปเซอร์เบียซึ่งก็คือยูโกสลาเวียที่ยังเป็นคอมมิวนิสต์อยู่ในตอนนั้น ที่นั่น ในลานจอดรถของ Belgrade’s Hotel InterContinental เป็นที่ ๆ เขาและ Tony Ciminera อดีตผู้บริหาร Fiat ได้ทำการตรวจสอบแฮทช์แบ็คที่สร้างขึ้นมาโดยยึดแบบของ Fiat ที่ชื่อ Yugo เป็นครั้งแรก

Yugo เป็นหนึ่งในรถที่แย่ที่สุดตลอดกาล ข้อดีข้อเดียวของการซื้อรถรุ่นนี้ในยุค 80s คือราคาที่ถูกของมัน สิ่งที่มาพร้อมราคาถูก ๆ นั่นก็คือรถที่คุณภาพและความปลอดภัยต่ำ แม้ทางโรงงานจะบอกว่ารถรุ่นนี้สามารถวิ่งได้ 85 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่พวกเขาก็เตือนว่าถ้าคุณขับเร็วขนาดนั้น เครื่องยนต์ของคุณอาจพังได้

ถึงแม้มันจะเป็นรถที่ผลิตในประเทศคอมมิวนิสต์ที่ขายในอเมริกายุค Reagan แต่ดีลเลอร์มีคนมาต่อคิวซื้อกันมากมาย Yugo America ขายรถได้ถึง 1050 คันภายในวันเดียว แต่ทุกสิ่งมีขึ้นก็ต้องมีลง รถรุ่นนี้มีปัญหาจริงจังหลายปัญหา มันเป็นรถที่ช้ามากโดยมันคลานอยู่ที่ 60 ไมล์ต่อชั่วโมง ในเวลา 14 วินาที และวิ่งได้เร็วสุดที่ 86 ไมล์ต่อชั่วโมง แล้วรีวิวก็ตามมา Csaba Csere ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ C/D เขียนไว้ว่า “มันชัดเจนสำหรับผมว่า Yugo GV เป็นรถที่แย่กว่ารถรุ่นอื่นทุกรุ่นที่ขายในอเมริกา”

Ford Explorer

Ford Explorer นั้นคล้ายกันกับ Bronco แต่มีขนาดใหญ่กว่า แม้ Ford จะรู้ปัญหาเรื่องรถคว่ำแต่พวกเขาก็ไม่ได้กลับไปออกแบบอะไรใหม่ พวกเขาเลือกที่จะลดระดับแรงกดที่ยาง การที่พวกเขาไม่สนใจปัญหาหลักที่มาจากดีไซน์ของตัวถังรถ พวกเขาเปิดโอกาสให้มีปัญหาระยะยาวอีกหลาย ๆ ปัญหาตามมา ด้วยความที่แรงกดต่ำ คุณจึงสามารถเสียการควบคุมเจ้า Explorer ได้และสิ่งนี้ทำให้ปัญหารถคว่ำยังคงอยู่

240 ศพ และ 3,000 กรณีบาดเจ็บรุนแรงคือผลลัพธ์ของ Explorers รุ่นแรก ๆ และยาง Firestone รวม ๆ กัน ดอกยางของตัวยางแตกออกจากกัน มันจึงทำให้รถมีโอกาสคว่ำสูง ชื่อเสียงของทั้งสองบริษัทเสียหายไปด้วยกัน เหตุการณ์นี้ทำให้การเป็นหุ่นส่วนระยะเวลานานถึง 90 ปีของ Ford และ Firestone ยุติลง

รถยนต์ที่เป็นทรงทรัคแบบ Explorer นั้นมีโอกาสคว่ำมากกว่ารถเก๋งทั่วไปเพราะการดัดแปลงฮาร์ดแวร์ของรถขับเคลื่อน 4 ล้อขนาดใหญ่ทำให้ต้องเพิ่มความสูงเพื่อรักษาระดับของความสูงจากพื้นรถ (ยกจุดศูนย์ถ่วงขึ้น) ขณะที่ล้อสั้นก็ยังไปลดความเสถียรยิ่งขึ้นไปอีก Bronco II ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้าได้รับการกล่าวถึงโดย Consumer Reports ว่ามีโอกาสคว่ำเวลาเลี้ยว

Explorer ได้รับการกู้ชื่อโดย NHTSA ว่าเป็นรถที่ไม่อันตรายไปกว่ารถรุ่นอื่น ๆ ในทรงเดียวกันเมื่อขับอย่างไม่ปลอดภัย มันใช้ยางแบบเดียวกันกับ Ford Ranger ที่ได้คะแนนค่อนข้างต่ำในส่วนของอุณหภูมิสูง การลดแรงดันลมยางทำให้การขับขี่นิ่มขึ้นและเพิ่มความเสถียรในกรณีฉุกเฉินจากการยึดเกาะถนนแต่ก็ทำให้ยางมีโอกาสร้อนเกินไปมากขึ้น โฉมใหม่ของรุ่นนี้ที่ออกมาในปี 1995 มาพร้อมระบบกันสะเทือนแบบใหม่ที่ยกจุดศูนย์ถ่วงของ Explorer ขึ้นเล็กน้อยโฆษกของ Ford บอกว่ามันไม่ได้สำคัญอะไร โน้ตจากวิศวกรของ Ford แนะนำให้ลดความสูงของเครื่องยนต์ลงแต่สิ่งนี้จะเพิ่มต้นทุนของดีไซน์ใหม่

จำนวนการคว่ำของ Explorer ในตอนเกิดเรื่องนั้นมากกว่ารถคู่แข่งของมันทุกรุ่น ขณะที่ Firestone ผลิตยางที่ต่ำกว่ามาตรฐานและน่าจะมีตำหนิมาเป็นล้าน ๆ เส้นและเป็นต้นเหตุที่ทำให้ Ford Explorer หลายคันเสียการควบคุมและคว่ำจากการที่ดอกยางแยกออกจากกัน แต่คนที่โดนด่ากลับเป็น Ford ว่าผลิตรถที่ดีไซน์มีปัญหาและไม่เสถียรออกมา

Page 1 of 7
NEXT