รถยนต์รุ่นที่อันตรายที่สุดที่เคยมีมา

Ford Bronco

Bronco เริ่มเข้ามาในตลาดในฐานะ SUV คันเล็กซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดกำลังฮือฮามาก โชคร้ายที่ถึงแม้มันจะเป็นที่นิยมมาก มันก็เป็นรถที่มีปัญหาเรื่องเสี่ยงที่จะคว่ำอยู่เป็นระยะเวลานาน

ตัวถังรถที่สูงทำให้มันอันตรายเวลาเข้าโค้งและจะลำบากเป็นพิเศษเวลาวิ่งตรงทางลาดขึ้น-ลงไฮเวย์ Ford ทำผิดพลาดกับ SUV ตัวนี้ แม้จะมีเหตุการณ์ที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่หลายเหตุการณ์จากการที่รถคว่ำแต่ Ford ก็ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

ในปีที่เจ็ดของการขายรถรุ่นนี้ Bronco II เป็นรถที่ประสบความสำเร็จสำหรับ Ford หลังนำคอนเซ็ปท์ของ Mustang II เมื่อ 10 ปีก่อนหน้ามาใช้ Bronco II คือการกลับไปเป็น Bronco ตัวคอมแพ็คท์ออริจินัลรุ่นปี 1966-1975 Bronco ที่สวยและทันสมัย

รถทรงทรัคสุดถึกคันเล็ก ๆ ที่พัฒนามาจาก Ford Ranger รุ่นนี้กับ Chevy S-10 Blazer และ Jeep Cherokee มีส่วนช่วยในการทำให้รถ SUV บูม

แต่ความสูงพื้นรถที่สูง ระยะห่างระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังที่สั้น และลำตัวที่แคบทำให้มันมีโอกาสคว่ำได้สูงมาก ขณะทำการตรวจสอบอย่างเป็นทางการในปี 1990 มีการค้นพบว่าคร่าว ๆ แล้วมีคนเสียชีวิตปีละ 70 คนเมื่อ Bronco ของพวกเขาคว่ำ ทำให้มันเป็นรถที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากการคว่ำมากที่สุดจากรถทุกคันที่เคยมีการทดสอบมา ไม่นานหลังรายงานนี้ได้รับการเปิดเผยออกมา รถรุ่นนี้ก็ถูกแทนที่ด้วย Ford Explorer ที่มีระยะห่างระหว่างล้อหน้ากับล้อหลังที่ยาวกว่า

Chevrolet Corvair

Corvair เป็นรถอีกรุ่นที่มีชื่อเสียงมายาวนานในประวัติศาสตร์รถยนต์ มันโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร มันมีเครื่องยนต์ที่ระบายความร้อนด้วยอากาศและเครื่องยนต์นั้นติดตั้งอยู่ด้านหลัง เมื่อนำทุกอย่างมารวมกันแล้วมันถือเป็นสมาชิกใหม่ที่น่าสนใจสำหรับวงการรถยนต์

ปัญหาของรถรุ่นนี้เป็นผลมาจากระบบกันสะเทือนของรถยนต์ เป็นที่รู้กันว่าคนที่ขับรถรุ่นนี้จะเจอกับอาการท้ายสะบัดและรถจะหมุน นี่เป็นสาเหตุที่มันเป็นหนึ่งในรถที่อันตรายที่สุด

ถ้าให้พูดตรง ๆ ปัญหาของ Corvair ก็ไมใช่ความผิดของรถ แม้จะถูก Ralph Nader กล่าวหาในเรื่องต่าง ๆ ในหนังสือชื่อดังของเขาอย่าง Unsafe at Any Speed เจ้ารถ Corvair ที่เครื่องยนต์อยู่ด้านหลังนั้นไม่ได้มีความเสี่ยงที่จะหมุนมากไปกว่า Porsche ที่มีเครื่องยนต์อยู่ด้านหลังแต่อย่างใดแต่มันมาอยู่ในลิสต์นี้เพราะมันอยู่ในอุบัติเหตุรถชนหลายครั้ง GM ถูกฟ้องมากกว่า 100 คดีในทุกขณะ แต่ความจริงแล้วปัญหาหลัก ๆ เกิดจากคนอเมริกันขับรถที่เครื่องยนต์อยู่ด้านหลังไม่ค่อยเป็นมากกว่า

Chevrolet Corvette

นี่เป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่เป็นที่นิยมมากในประวัติศาสตร์รถ มันมีมาตั้งแต่ยุค 50s และมีชื่อเสียงในทางที่ดีในหมู่คนรัก Corvette แต่อย่างไรมันก็ยังต้องมาอยู่ในลิสต์รถที่อันตรายที่สุดเพราะการขับแบบบ้าบิ่น ไม่มีใครเถียงว่านี่เป็นรถสปอร์ตที่เป้าหมายคือหนุ่ม ๆ อายุไม่มากที่ชอบความเร็ว ถ้าจะว่ากันด้วยสถิติแล้วรถรุ่นนี้ก่อให้เกิดความตายจากอุบัติเหตุมากกว่า 5 คันจาก 10,000 คัน ซึ่งสูงกว่า Ford Mustang เสียอีก

สิ่งที่คุณจะสามารถสังเกตได้จากการอ่านลิสต์นี้คือขนาดของรถยนต์มีส่วนกับความปลอดภัยของมันมาก ในกรณีของ Corvette ปัญหาเกิดจากขนาดและความเร็วผสมกัน — ไม่มีใครซื้อรถรุ่นนี้ไปขับเอื่อย ๆ ในชนบทวันอาทิตย์ ในปี 1990 การค้นคว้าแสดงให้เห็นว่าในทุก ๆ 10,000 คันของ Corvette รุ่นปี 1985-87 ที่มีการขึ้นทะเบียนในสหรัฐจะมีผู้ขับขี่และผู้โดยสาร 5.2 รายเสียชีวิตคารถในอุบัติเหตุ อัตราการตายของรถสปอร์ตรุ่นอื่น ๆ อย่าง Chevy Camaro และ Ford Mustang ก็ถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่แย่ที่สุดเหมือนกันในช่วงทศวรรษหลัง ๆ มานี้

Ford Mustang

Ford Mustang มีคนติดตามมากมาย ผู้คนชอบทั้งชื่อ ดีไซน์ และการเอื้อต่อการขับขี่ของมัน ปัญหาก็คือมันดันไปดึงดูดใจของวัยรุ่นบ้าระห่ำที่ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนกำลังพลุ่งพล่านซึ่งทำให้มันต้องมาอยู่ในลิสต์นี้ ในประวัติมันถือเป็นรถแบบดั้งเดิมที่เกิดอุบัติเหตุมาแล้วหลายครั้งเพราะเครื่องยนต์อันทรงพลังของมันและความเร็วที่ใคร ๆ ก็รู้ ถ้าให้วัดเรื่องความอันตราย รุ่นนี้จัดอยู่ในอันดับต้น ๆ เลย อันที่จริงแล้วจะมีผู้เสียชีวิต 4 คน ต่อรถรุ่นนี้ที่ขายไป 10,000 คัน – ไม่ใช่สถิติที่ดีเท่าไรนะ!

ถึงแม้ Ford Mustang จะไม่มีปัญหาเรื่องดีไซน์อย่างจริงจังจนทำให้มันชนหรือประสบอุบัติเหตุได้ตรง ๆ แต่ทางสถิติแล้วมันคือหนึ่งในรถรุ่นที่อันตรายที่สุดในโลก รายงานชี้ให้เห็นว่าการชนและการเสียชีวิตที่มี Mustang เข้าไปเกี่ยวข้องนั้นเกิดขึ้นถี่กว่ารถรุ่นทั่ว ๆ ไปถึงสี่เท่า เหตุผลที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือรถรุ่นนี้ถือว่าค่อนข้างถูกถ้าเทียบกับกำลังและความเร็วของมันซึ่งนั่นหมายความว่าคนขับที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไรก็สามารถซื้อใช้ได้ตอนอายุยังน้อย คนขับประเภทนี้มีโอกาสจะคุมรถไม่อยู่ที่ความเร็วสูง ๆ และทำให้เกิดอุบัติเหตุจนมีผู้เสียชีวิต

Ford Pinto

Pinto ผลิตในยุค 70s และถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นคำตอบของการนำเข้ารถญี่ปุ่นและยุโรป ตอนนั้นการหารถคันเล็ก ๆ มาขับเป็นเรื่องนิยมและ Pinto ก็คือสิ่งนี้เลย นอกจากนี้มันยังประหยัดน้ำมันกว่าอีกด้วยซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบอีกข้อ แต่มันก็มีปัญหาเหมือนกัน

ถังน้ำมันของมันติดอยู่ที่กันชนหลังและนั่นทำให้เกิดหายนะขึ้นได้ หากรถถูกชนด้านหลังจะมีโอกาสที่ไฟจะลุกและระเบิดสูง ข้อสองคือระบบส่งกำลังของรถมีโอกาสเปลี่ยนเกียร์เองโดยที่คนขับไม่รู้ตัว ปัญหาใหญ่ ๆ สองปัญหานี้ทำให้ชื่อเสียงของรถรุ่นนี้พังและทำให้มันต้องมาอยู่ในลิสต์รถรุ่นที่อันตรายที่สุด

นอกจากจะเป็นตัวอย่างที่ดีของรถยนต์ที่ดีไซน์ได้ไม่สมบูรณ์และถูกรีบนำมาวางขายแล้ว การที่ Pinto มีโอกาสระเบิดสูงจากแม้กระทั่งจากการถูกชนเล็กน้อยจากทางด้านหลังนั้นยังเป็นที่รู้กันดีจนทำให้มันกลายเป็นรถที่เกือบเป็นเรื่องตลกไปแล้ว ที่ไม่ค่อยตลกก็คือคนที่ถูกถังน้ำมันรถที่ไม่ได้รับการปกป้องที่ดีฆ่าไป แต่ปัญหานี้ก็ทำให้ประชาชนหันมาสนใจเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถได้มาก